วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

การบันทึกครั้งที่ 8
วันพุธ ที่ 7 มีนาคม 2561



ความรู้ที่รับ

         ในคาบนี้ก่อนเรียนอาจารย์ได้ให้นักศึกษาออกมานำเสนอคำคมให้เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานศึกษา ในแบบที่ตนเองเข้าใจ
 





1.นางสาวกษมา แดงฤทธิ์


2.นางสาวยุคลธร ศรียะลา


3.นางสาวณัฐณิชา พุทธรักษา

 👉  หลังจากนั้นเป็นการนำเสนอวิจัยของแต่ละกลุ่ม  👈

         กลุ่มที่ 1 
งานวิจัย เรื่องการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา ในจังหวัดนครสวรรค์




การศึกษา ระดับปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
มหาวิทยาลัย  บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยผู้วิจัย พระสกล ฐานธมฺโม (อินทร์คล้าย)  ปีการศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๖
วัตถุประสงค์ของการวิจัย ๑ เพื่อศึกษากระบวนการ การบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์ ๒ เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูและผู้บริหารต่อการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์โดยจําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓ เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้  บริหารสถานศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑ ทําให้ได้ทราบถึงกระบวนการการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์ ๒ ทําให้ได้ทราบถึงความคิดเห็นต่อการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์โดยจําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓ ทําให้ได้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์ขอบเขตของการศึกษาวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์เฉพาะผู้บริหารและครูผู้สอนในสถานศึกษาเขตอําเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ขอบเขตด้านเนื้อหา เนื้อหาของการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ศึกษาการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารและครูในสถานศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์ทั้ง ๖ ด้านหลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักความมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่าตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย ขอบเขตด้านระยะเวลา ระยะเวลาในการดําเนินการวิจัย ตั้งแต่ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงเดือน มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ รวมระยะเวลา ๗ เดือน



                     - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


    กลุ่มที่ 2 
งานวิจัย เรื่อง รูปแบบการบริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนต้นแบบการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน A Model of School Administrative Effectiveness for Master  School Development to ASEAN Community


การศึกษาระดับ  ปริญญาศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต (การบริหารการศึกษา)
มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ผู้วิจัย นายธีระวัฒน์ มอนไธสง
ปีการศึกษา พ.ศ. 2557

วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษาองค์ประกอบการบริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนต้นแบบการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน
2. เพื่อศึกษารูปแบบการบริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนต้นแบบการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน
3. เพื่อตรวจสอบรูปแบบการบริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนต้นแบบการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีรูปแบบการบริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิผลที่ชัดเจนและเป็นไปได้
2. องค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนต้นแบบการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียนที่สถานศึกษาอื่นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้
ขอบเขตของการศึกษาวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ มุ่งศึกษารูปแบบการบริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนต้นแบบการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน จากการศึกษาค้นคว้าแนวคิด ทฤษฎี ตลอดจนเอกสาร และงานวิจัย
ต่าง ๆ ผู้วิจัยได้กำหนดขอบเขตเนื้อหา ดังนี้
   1. นโยบายด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ประกอบด้วย (กระทรวงศึกษาธิการ, 2553)
       1.1 นโยบายที่ 1 การเผยแพร่ความรู้ข้อมูลข่าวสาร และเจตคติที่ดีเกี่ยวกับอาเซียน
       1.2 นโยบายที่ 2 การพัฒนาศักยภาพของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนให้มีทักษะที่เหมาะสม
       1.3 นโยบายที่ 3 การพัฒนามาตรฐานการศึกษา
       1.4 นโยบายที่ 4 การเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดเสรีการศึกษาในอาเซียน
       1.5 นโยบายที่ 5 การพัฒนาเยาวชนเพื่อเป็นทรัพยากรสำคัญในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน
   2. องค์ประกอบการบริหารสถานศึกษาที่มี สรุปได้ 9 หัวข้อสำคัญได้แก่ 
ภาวะผู้นำ 
ความคาดหวังสูง 
การมีวิสัยทัศน์ และเป้าหมายที่ชัดเจน 
การพัฒนาหลักสูตรที่เน้นวิชาการ 
กระบวนการจัดการเรียนการสอน  
บรรยากาศสภาพแวดล้อมขององค์การที่เอื้อต่อการเรียนรู้ 
การนิเทศกำกับติดตามผล 
การมีส่วนร่วมของชุมชน/ผู้ปกครอง และ 
การพัฒนาวิชาชีพครู


                  - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


    กลุ่มที่ 3 
งานวิจัย  การบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษา อำเภอ เลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี 




การศึกษาระดับ   ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ผู้วิจัย  พระสุธิศักดิ์ สุภกิจฺโจ (เขียวหวาน) 
ปีการศึกษา  2554

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
     ๑.๒.๑ เพื่อศึกษาการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส      ทางการศึกษาอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
     ๑.๒.๒ เพื่อเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก
ธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
     ๑.๒.๓ เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลโรงเรียนขยาย
โอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
      ๑. ทำให้ทราบการบริหารการศึกษา ตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาส ทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี 
      ๒. ทำให้ทราบการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาตามหลัก ธรรมาภิบาล โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี 
      ๓.ทำให้ทราบการศึกษาแนวทางการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล โรงเรียน ขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอ เลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี

ขอบเขตของการศึกษาวิจัย
        ๑ ขอบเขตด้านเนื้อหา การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภบาล โรงเรียน ขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งกำหนดหลักพื้นฐานการ บริหารตามหลักธรรมาภิบาล ๖ ประการ
         ๒ ขอบเขตด้านประชากร ประชากรที่ศึกษาได้แก่ ครูที่ทำหน้าที่สอนหนังสือโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน ๑๓ แห่ง ซึ่งมีครูจำนวน ๑๖๐ คน 
         ๓ ขอบเขตด้านพื้นที่ เป็นการศึกษาเฉพาะ โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน ๑๓ โรงเรียน 

                        - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    กลุ่มที่ 4 
 งานวิจัย เรื่อง  รูปแบบการบริหารงานสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัยที่มี ประสิทธิผลในจังหวัดนนทบุรี 
AN ADMINISTRATIVE MODEL FOR AN EFFECTIVE 
EARLY CHILDHOOD PRIVATE SCHOOL 
IN NONTHABURI PROVINCE



การศึกษาระดับ   ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา
มหาวิทยาลัย      ศรีปทุม
ผู้วิจัย            นางเรขา ศรีวิชัย 
ปีการศึกษา         2554

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
     1.  เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานของสถานศึกษาเอกชน  ระดับปฐมวัยที่มีประสิทธิผลใน จังหวัดนนทบุรี
     2. เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานของสถานศึกษาเอกชน  ระดับปฐมวัยที่มีประสิทธิผล ในจังหวัดนนทบุรี

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
    1.ได้รูปแบบการบริหารงานสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัยที่มีประสิทธิผล
    2. สามารถนำผลการวิจัยมาใช้ในการพัฒนา / ปรังปรุงดำเนินงาน  สถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย 


                       - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    กลุ่มที่ 5 
งานวิจัย  เรื่อง การบริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน ในอำเภอคลองหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต 1 


การศึกษาระดับ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ผู้วิจัย  ยุกตนันท์ หวานฉ่ำ
ปีการศึกษา 2555

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
    1. เพื่อศึกษาระดับการบริหารสถานศึกษาของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต 1 
    2. เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต 1 
    3. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอคลองหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต 1 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 
   1.เป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานสถานศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา ในการนำไปใช้ในการวางแผนการจัดทำหลักสูตร การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของสถานศึกษาในอำเภอ คลองหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1
   2.เป็นแนวทางให้สถานศึกษาประชาชน ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ในอำเภอลองหลวง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ได้นำรูปแบบไปพิจารณาปรับปรุงบทบาท หน้าที่ ในการบริหารสถานศึกษา ให้มีความชัดเจนและมีความเหมาะสม

                        - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
      กลุ่มที่ 6
งานวิจัย เรื่อง การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่


การศึกษาระดับ  ประถมศึกษา  
มหาวิทยาลัย  หาดใหญ่
ผู้วิจัย  ลดารัตน์  ศศิธร
ปีการศึกษา  2558

วัตถุประสงค์ของการวิจัย  
   1.ศึกษาการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ ตามความคิดเห็นของผู้บริหารการศึกษา ครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
   2.เปรียบเทียบการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ตามความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำแนกตาม ตำแหน่ง ประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในสถานศึกษาและลักษณะของโรงเรียน
   3.ศึกษาความพึงพอใจ การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ ตามความคิดเห็นของ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน
4.รวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะ ในการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วม สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
   1.ด้านความรู้ 
       ทำให้ทราบความคิดเห็นของผู้บริหารการศึกษา  ครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ต่อการบริหารการจัดการขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วมสังกัดสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษากระบี่
   ทำให้ทราบถึงความพึงพอใจของ ผู้บริหารการศึกษา  ครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ผู้ปกครองและนักเรียน ต่อการบริหารการจัดการขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วมสังกัดสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษากระบี่
   2.ด้านการนำไปใช้
     สามารถนำข้อมูลที่ได้เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้แก้ไขปัญหาหรือเป็นแนวทางประกอบการพิจารณาคุณภาพโรงเรียนที่ดำเนินงานจัดการเรียนร่วมสังกัดสำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่



ประเมินอาจารย์

           อาจารย์อธิบายเนื้อหาเพิ่มเติมให้

ประเมินเพื่อน 

           เพื่อนทุกคนตั้งใจนำเสนองาน

ประเมินตนเอง

           เตรียมงานมานำเสนอและตั้งใจนำเสนองาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น